วิทยาศาสตร์ล้ำหน้า-ธรรมะล้าสมัย ... จริงหรือ?
- Keerati Chayakulkheeree
- Jun 26, 2019
- 1 min read
Updated: Oct 23, 2019
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระอริยสงฆ์
...
ทุกวันนี้เราได้ประจักษ์ชัดเจนถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างคาดไม่ถึงในอดีต เราสามารถติดต่อกันได้ทั่วโลกเสมือนนั่งคุยกันต่อหน้าด้วยอุปกรณ์บนฝ่ามือหรือแม้กระทั่งสามารถทำงานที่ในอดีตต้องใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่และทีมงานหลายคนได้ด้วยอุปกรณ์เล็ก ๆ ในร้านกาแฟ เราสามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จะมีสภาพการจราจรเป็นอย่างไร เราสามารถติดต่อซื้อขายทำธุรกรรมทุกอย่างในห้องนอนที่บ้านได้ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างในบ้านมีสมองกลที่ชาญฉลาดและทำงานได้เองแม้กระทั่งเครื่องดูดฝุ่น
ทั้งหมดที่ได้กล่าวไปนั้นเป็นที่รู้จักกันว่าคือ “ความทันสมัย” และสิ่งเหล่านี้จะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้เทคโนโลยีหลายอย่าง เช่น ทีวี โทรศัพท์บ้าน เครื่องแฟกซ์ หรือแม้กระทั่งเครื่องเล่นซีดี ดีวีดี ซึ่งเคยเป็นสิ่งที่แสนจะล้ำสมัยในอดีตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลายเป็นของล้าสมัย
จึงเป็นที่ชัดเจนว่า...สิ่งที่เราเรียกว่า "การพัฒนา" นั้นทำให้เกิดความล้าสมัยของสิ่งเดิม และเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานความเจริญและทันสมัยในวันนี้จะเป็นความล้าสมัยในวันหน้าอย่างแน่นอนเป็นที่สุด
แท้จริงแล้วการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น จึงเป็นสิ่งที่เตรียมจะล้าสมัยในทันทีที่มีการพัฒนาออกมา สิ่งเหล่านี้ "ล้าสมัยในตัวมันเองตั้งแต่มีคนคิดค้นขึ้นมาได้" อย่างเลี่ยงไม่ได้
...
ในทางกลับกัน...ผมเองเคยมองว่าการสนใจในพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของคนแก่คนหัวเก่าล้าสมัย ธรรมะเป็นของล้าสมัย แต่เมื่อได้ลองค้นคว้าศึกษาดูผมกลับได้พบว่า...
พระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนานั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะผ่านมานานถึงเกือบ 2600 ปี และจะยังคงเป็นสัจธรรมอยู่ตลอดไปเช่นเดิม
แล้วจะเรียกว่าล้าสมัยไปได้อย่างไรกัน พระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งประเสริฐที่ไม่จำกัดกาลอันควรศึกษาประพฤติปฏิบัติให้เห็นจริง เพราะเป็นสัจธรรมแท้ที่ศึกษาปฏิบัติแล้วมีที่สิ้นสุดได้ จะไม่สามารถจะล้าสมัยได้
แม้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปมากเพียงใด ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด กิเลสและความทุกข์ของคนเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระพุทธศาสนาสอนให้คนรู้จักและพ้นจากความทุกข์นี้และวิธีปฏิบัตินั้นไม่เคยล้ำสมัยตลอดกาล
...
หากบทความนี้ได้กล่าวผิดพลาดไปประการใดนั้นเกิดจากการทำความเข้าใจในคำสอนมาผิดของกระผมเองและขอกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้ด้วย และหากสิ่งที่เขียนนี้ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและเพื่อนพุทธบริษัทแล้วกระผมขอน้อมถวายบูชาแด่พระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ และองค์หลวงปู่เจือ สุภโร เป็นที่สุด
รศ.ดร.กีรติ ชยะกุลคีรี

Kommentare